จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
{{ sub_option.name }} | - ไม่มีตัวเลือก - |
|
คงเหลือ | 800 ชิ้น | |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
||
|
||
คุยกับร้านค้า | ||
{{ size_chart_name }} |
|
|
หมวดหมู่ | สมุนไพรแท้ | |
สภาพ | สินค้าใหม่ | |
เพิ่มเติม | ||
สภาพ | สินค้ามือสอง | |
เกรด | ||
สถานะสินค้า | ||
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | ||
เข้าร่วมโปรโมชั่น | ||
ไฮไลท์ |
ขมิ้นชัน (Turmeric) หรือขมิ้น เป็นพืชที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อของเหง้ามีสีเหลืองเข้มไปจนถึงสีแสด เอกลักษณ์ที่เด่นชัด คือ รสชาติที่จัดจ้าน สีสันมีความสวยงาม อีกทั้งยังได้มีการนำเอาสมุนไพรมาประยุกต์ผสมผสานลงไปในอาหารไทย ทำให้ได้รสชาติที่ดูแตกต่างแต่ลงตัว เมื่อพูดถึงเรื่อง สมุนไพร ที่คนไทยนิยมนำมาทำอาหาร เราคงจะพลาดที่จะเอ่ยถึง ขมิ้นชัน ไม่ได้ เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ทำให้อาหารมีสีสันสะดุดตา ตลอดจนมีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มพูนเป็นลำดับถัดมาจากความอร่อย ตอนนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสมุนไพรชนิดกันให้มากขึ้น เพราะเหตุใดจึงเป็นที่นิยม และประโยชน์ที่ได้จากสมุนไพรชนิดนี้มีอะไรบ้าง หากพร้อมแล้วมาเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน
วิตามินและแร่ธาตุในขมิ้นชัน
นอกจากเราจะเราสามารถนำขมิ้นชันไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาหาร ใช้ย้อมสี หรือใช้เพิ่มกลิ่นให้กับอาหารแล้ว ในขมิ้นชันยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เกลือแร่ เส้นใยอาหาร คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน
เริ่มเล่าเท้าความถึงขมิ้นชันนั้น เป็นไม่ล้มลุกอายุหลายปี ความสูงของลำต้นเพียง 30 – 90 เซนติเมตรเท่านั้น มีเหง้าใต้ดิน ส่วนตรงกลางมีขนาดใหญ่รูปไข่ มีแขนงแตกออกด้านข้าง 2 ด้าน ที่อยู่ตรงข้ามกันคล้ายนิ้วมือ เนื้อในเหง้ามีสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอม คนไทยรู้จักกันในฐานะของพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ นิยมนำมาใช้ประกอบอาหาร ปัจจุบันยังได้เพิ่มการแต่งสี แต่งกลิ่น เพิ่มรสชาติให้อาหารมีความน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อาหารที่นิยมใส่ขมิ้นชัน ได้แก่ แกงเหลือง ข้าวหมกไก่ แกงกะหรี่ ขนมเบื้องญวน ไก่ทอด แกงไตปลา มัสตาร์ด เนย มาการีน เป็นต้น
จุดเริ่มต้นของการที่คนเราหันมารับประทานขมิ้นชันนั้น เชื่อกันว่ามีต้นตอมาจากชาวอินเดีย หรือที่เรียกว่า ชาวภารตะ ที่นิยมกินขมิ้นชันกันมานานกว่า 4,000 ปีแล้ว ส่วนคนไทยก็มีความนิยมกินขมิ้นชันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคใต้นิยมใส่ขมิ้นชันลงไปในอาหารประเภทแกงเผ็ดเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้มีสีเหลืองและยังช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้อีกด้วย รวมทั้งการใส่ลงไปในอาหารก็จะช่วยไม่ให้อาหารบูดเสียง่าย เพราะในขมิ้นชันมีคุณสมบัติที่ช่วยต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ นอกจากนั้น การใช้ขมิ้นชันในอาหารจะช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ป้องกันการเหม็นหืนของน้ำมันและไขมันเมื่อต้องเก็บไว้เป็นเวลานานๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบในการช่วยถนอมอาหารและยังมีคุณค่าทางโภชนาการให้อาหารได้อีกด้วย
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
สรรพคุณทางยาขมิ้นชันนอกจากที่จะมีคุณค่าทางอาหารแล้ว ก็ยังถือเป็นพืชที่มีคุณค่าทางยาอีกด้วย ซึ่งชาวไทยนิยมนำส่วนต่างๆ มาใช้เป็นยาเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นรับร่างกาย โดยสามารถดูรายละเอียดได้ดังนี้
การใช้ขมิ้นเพื่อรักษาอาการแน่นจุกเสียด อาหารไม่ย่อย เป็นข้อบ่งใช้เดียวที่มีรายงานการวิจัยทางคลินิกที่เป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก และคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา
การใช้ขมิ้นรักษาอาการท้องเสีย วิธีใช้
การใช้ขมิ้นรักษาแผลและแมลงกัดต่อย วิธีใช้
การใช้ขมิ้นเพื่อรักษากลาก เกลื้อน วิธีใช้
นอกจากขมิ้นชัน จะสามารถนำมาประกอบอาหารประเภทต่างๆ รวมถึงยังใช้เป็นยารักษาโรคและบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกร่างกายได้แล้ว สมุนไพรชนิดนี้ยังสามารถนำไปใช้รักษาโรคที่คาดว่าน่าจะเกิดจากอนุมูลอิสระ อย่าง โรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด เป็นต้น สำหรับในโรคมะเร็งเองแล้ว ขมิ้นชัน จะมีฤทธิ์ช่วยลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการแพร่กระจาย อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ปกติเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็ง โดยจากการทดสอบในห้องทดลองพบว่า ฤทธิ์ของขมิ้นชันจะช่วยยับยั้งการเติบโต หรือการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเซลล์มะเร็งหลายๆ ชนิด ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับอ่อนต่างก็ได้ผลที่ดีทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงเป็นข้อดีต่อผู้ป่วยมะเร็งระยะต้นๆ ที่จะหันมารับประทานขมิ้นชันในรูปแบบของการปรุงอาหาร ที่ถือได้ว่าเป็นวิธีการที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด หรืออาจนำผงขมิ้นชันผสมลงในเครื่องดื่มก็ได้ แต่หากต้องการจะรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมอาจต้องระวังสักเล็กน้อย เพราะจากงานวิจัยในผู้ป่วยมะเร็งบางรายช่วงที่ได้เคมีบำบัด อาหารเสริมอาจเข้าไปรบกวนประสิทธิภาพของยาได้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
วิธีรับประทาน ผสมสมุนไพรบดหอม 1-2 ช้อนชา ต่อน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน 1 แก้ว อาจเติมรสหวาน ด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดง หรือบีบมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติตามชอบ
สูตรพอกหน้าลดสิวด้วยขมิ้นชันการใช้ขมิ้นชันพอกหน้ารักษาสิว เป็นตำรับการประทินผิวที่มีมาตั้งแต่โบราณ ด้วยวิธีรักษาตามแบบฉบับธรรมชาติที่ให้ความปลอดภัยสูง และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี สูตรพอกหน้าที่มีส่วนผสมของขมิ้นชัน มีด้วยกันหลายสูตรดังนี้ สูตร 1: ผงขมิ้นชัน + ดินสอพอง + นมสดผสมผงขมิ้นชันประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ กับดินสอพอง 1 ช้อนโต๊ะ (ดินสอพองสตุ) แล้วค่อยๆ ผสมนมสดตามลงไปในสัดส่วนที่ไม่มากจนทำให้ส่วนผสมกลายเป็นน้ำเหลว ค่อยๆ คนจนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเนียนเหมือนครีมทาผิว จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด นำส่วนผสมทั้งหมดพอกเอาไว้บนใบหน้า นวดเบาๆ ประมาณ 5 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างออกตามปกติ จะช่วยให้ผิวหน้านุ่ม ลดแบคทีเรียที่เป็นตัวการทำให้เกิดสิว และช่วยให้ผิวแลดูขาวขึ้น สูตร 2: ผงขมิ้นชัน + น้ำมะนาวผสมผงขมิ้นชันประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ถ้าหากหนืดเกินไป ให้ผสมน้ำเปล่าลงไปจนส่วนผสมเหนียวข้นได้ที่ สามารถเกลี่ยให้ทั่วผิวหน้าได้แล้ว นำมาพอกให้ทั่ว สำหรับคนที่มีปัญหาสิวอักเสบและสิวอุดตัน น้ำมะนาวจะช่วยลดการอักเสบ เพิ่มระดับการกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของสิวร่วมกับสรรพคุณของขมิ้นชัน จากนั้นทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออก แต่หากรู้สึกแสบผิวหน้า สามารถล้างออกก่อนเวลาก็ได้ สูตร 3: ผงขมิ้นชัน + น้ำผึ้งผสมผงขมิ้นชัน 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนจนได้ส่วนผสมที่เข้ากันได้ดี จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เน้นจุดที่มีสิวอักเสบเป็นหลัก ซึ่งสรรพคุณของน้ำผึ้งจะช่วยลดการอักเสบ ไม่ให้สิวลุกลามมากไปกว่าเดิม และช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทดแทนเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อขมิ้นชันช่วยป้องและกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวแล้ว จะช่วยให้ปริมาณสิวลดลง ส่วนสิวที่เป็นอยู่จนกลายเป็นแผลเป็น น้ำผึ้งจะทำหน้าที่ช่วยสมานแผล ลดรอยแผลเป็นที่ลึกให้ตื้นมากขึ้น ข้อควรระวังในการใช้ขมิ้นชันสำหรับในสตรีมีครรภ์ ขมิ้นชันอาจทำให้เกิดการแท้งได้ในระยะแรกๆ ของการตั้งครรภ์ แต่ไม่มีผลต่อการตกไข่ เพราะฉะนั้นจึงควรระวังในการใช้ขมิ้นชันกับหญิงมีครรภ์ โดยการใช้ขมิ้นชันในปริมาณมากๆ อาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ การใช้ขมิ้นชันเป็นเวลานานๆ สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด งุ่นง่าน หรือตื่นกลัว เป็นต้น สมุนไพรพื้นบ้านขมิ้นชัน พืชที่มากอรรถประโยชน์ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีมาเป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าจะเป็นสมุนไพรแต่ก็ไม่ได้มีข้อดีเสมอไป หากเราไม่ศึกษาวิธีการใช้งานให้ดีเสียก่อน อย่างไรก็ตามขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการรักษา โดยจากผลการวิจัยก็ยังไม่พบพิษที่เกิดเฉียบพลันในมนุษย์ ซึ่งคนไทยโดยเฉพาะชาวภาคใต้นั้นรับประทานสมุนไพรชนิดนี้เป็นอาหารกันเป็นเวลานาน อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขยังได้แนะนำให้ใช้ขมิ้นชันในโครงการสาธารณสุขมูลฐานอีกด้วย นับได้ว่าขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์และอย่าลืมออกกำลังกายกันด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากตัวเอง |
Tags |
- ไม่มีตัวเลือก - |
|
|
คงเหลือ | 800 ชิ้น | |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
|
ไม่มีสินค้าที่เลือก
กรุณาเลือกแบบสินค้าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
หน้าที่เข้าชม | 4,170 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,727 ครั้ง |
เปิดร้าน | 29 ต.ค. 2563 |
ร้านค้าอัพเดท | 24 ก.ย. 2568 |